28 พฤศจิกายน 2539
งบการเงินประจำปี 2539
บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
-----------------------------------------------------------------
--------------------------------------
งบการเงิน
สำหรับแต่ละปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
และ
รายงานของผู้สอบบัญชี
-----------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------
--------------
รายงานของผู้สอบบัญชี
เสนอ ผู้ถือหุ้นบริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538 งบกำไร
ขาดทุนและกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรสำหรับแต่ละปีสิ้นสุดวันเดียว
กันและงบกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2539 ของ
บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรอง
ทั่วไป ซึ่งรวมทั้งการทดสอบรายการบัญชีและวิธีการตรวจสอบอื่นที่เห็นว่าจำเป็น
ข้าพเจ้าเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวข้างต้นแสดงฐานะการเงิน ณ วัน
ที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538 และผลการดำเนินงานสำหรับแต่ละปีสิ้น
สุดวันเดียวกันและกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2539 ของ
บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) โดยถูกต้องตามที่ควรและได้ทำขึ้น
ตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งได้ถือปฏิบัติเช่นเดียวกันโดย
สม่ำเสมอ ภายหลังการปรับปรุงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวิธีการบัญชี
สำหรับการบันทึกรายได้จากสัญญาเช่าระยะยาวตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินข้อ 1.1 และหลังจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบัญชีเกี่ยว
กับการบันทึกรายได้ค่าเช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงานเมื่อวัน
ที่ 1 ตุลาคม 2537 ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน
ข้อ 1.2 ที่ข้าพเจ้าเห็นชอบด้วย
(นายประสิทธิ์ มุสิกพันธุ์)
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
ทะเบียนเลขที่ 2675
กรุงเทพมหานคร
15 พฤศจิกายน 2539
บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
งบดุล
ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
สิ น ท รั พ ย์
บา ท
2539 2538
สินทรัพย์หมุนเวียน
เงินสดในมือและเงินฝากธนาคาร (หมายเหตุ 3) 25,542,988 22,916,038
ลูกหนี้ค่าเช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงาน - สุทธิจาก
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 12,104,458 บาท
ในปี 2539 และ 1,000,000 บาท ในปี 2538
(หมายเหตุ 3) 46,565,815 35,850,236
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าการเงิน - สุทธิ (หมายเหตุ 3 และ 4) 1,162,646,444 1,609,945,205
ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น (หมายเหตุ 3) 152,020,978 52,850,054
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 1,386,776,225 1,721,561,533
เงินลงทุนในหุ้นทุน - ในราคาทุน (หมายเหตุ 3)
บริษัทร่วม 245,000 245,000
บริษัทอื่น 5,000,000 5,000,000
รวมเงินลงทุนในหุ้นทุน 5,245,000 5,245,000
สินทรัพย์ถาวร - สุทธิ (หมายเหตุ 5) 1,761,145,454 1,102,710,852
ทรัพย์สินรอการขาย
ที่ดิน 17,340,855 17,340,855
รถยนต์ - สุทธิจากค่าเสื่อมราคาสะสมจำนวน 4,685,523
บาท ในปี 2539 และ 8,116,062 บาท ในปี 2538 2,906,357 6,494,957
รวมทรัพย์สินรอการขาย - สุทธิ 20,247,212 23,835,812
สินทรัพย์อื่น
ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี 146,423,044 100,424,967
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และอื่น ๆ 1,473,116 7,923,462
รวมสินทรัพย์อื่น 147,896,160 108,348,429
รวมสินทรัพย์ 3,321,310,051 2,961,701,626
โปรดดูรายงานการสอบบัญชีของนายประสิทธิ์ มุสิกพันธุ์
ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงินบริษัท ภัทรลิ
สซิ่ง จำกัด (มหาชน)
งบดุล
ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
บา ท
2539 2538
หนี้สินหมุนเวียน
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร
(หมายเหตุ 3 และ 6) 456,208,698 419,356,968
ตั๋วเงินจ่าย (หมายเหตุ 7) 95,000,000 390,000,000
เจ้าหนี้การค้า 40,690,941 43,469,102
เงินกู้ยืมและเจ้าหนี้จากบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
(หมายเหตุ 3 และ 8) 415,472,734 181,205,257
รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้า 12,196,952 10,977,472
ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 36,083,806 39,248,490
ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น (หมายเหตุ 3) 31,863,535 11,353,433
รวมหนี้สินหมุนเวียน 1,087,516,666 1,095,610,722
เงินกู้ยืมระยะยาว
บริษัทที่เกี่ยวข้อง (หมายเหตุ 3 และ 9) 90,000,000 -
บริษัทอื่น (หมายเหตุ 10) 1,269,665,012 1,255,158,422
เงินรับล่วงหน้าเพื่อสิทธิการซื้อเผื่อเลือก (หมายเหตุ 3 และ 13) 137,458,504 155,303,958
รวมหนี้สิน 2,584,640,182 2,506,073,102
ส่วนของผู้ถือหุ้น
ทุนเรือนหุ้น - หุ้นสามัญ มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
ทุนจดทะเบียน หุ้นที่ออกและเรียกชำระเต็มมูลค่าแล้ว
30,000,000 หุ้น ในปี 2539 และ 24,000,000
หุ้น ในปี 2538 (หมายเหตุ 11) 300,000,000 240,000,000
ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 156,000,000 -
กำไรสะสม
จัดสรรเพื่อ
ทุนสำรอง (หมายเหตุ 14) 7,695,796 3,723,728
ยังไม่ได้จัดสรร 272,974,073 211,904,796
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 736,669,869 455,628,524
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 3,321,310,051 2,961,701,626
โปรดดูรายงานการสอบบัญชีของนายประสิทธิ์ มุสิกพันธุ์
ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงินบริษัท ภัทรลิ
สซิ่ง จำกัด (มหาชน)
งบกำไรขาดทุนและกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร
สำหรับแต่ละปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
บาท
2539 2538
รายได้ (หมายเหตุ 3)
ค่าเช่ารับจากสัญญาเช่าดำเนินงาน 599,872,442 330,751,913
รายได้จากสัญญาเช่าการเงิน 198,582,755 255,849,969
รายได้อื่น 24,447,926 11,012,305
รวมรายได้ 822,903,123 597,614,187
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนทางตรงจากการให้เช่า 388,739,352 215,947,290
ค่าใช้จ่ายทั่วไปและบริหาร (หมายเหตุ 3) 103,672,071 44,543,641
ดอกเบี้ยจ่าย (หมายเหตุ 3) 214,666,088 229,018,894
ภาษีเงินได้ 36,384,267 33,107,010
รวมต้นทุนและค่าใช้จ่าย 743,461,778 522,616,835
กำไรสุทธิ 79,441,345 74,997,352
กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรต้นปี
ตามที่ได้รายงานไปแล้ว 98,292,257 93,559,963
ปรับปรุงผลสะสมของการเปลี่ยนแปลงทางการบัญชีย้อนหลัง
เข้ากับปีก่อน ๆ - สุทธิจากภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้อง
(หมายเหตุ 1) 113,612,539 67,280,760
กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรต้นปีภายหลังการปรับปรุง 211,904,796 160,840,723
จัดสรรเป็นทุนสำรอง (หมายเหตุ 14) (3,972,068) (1,433,279)
เงินสดปันผล (หุ้นละ 0.60 บาท สำหรับ 24 ล้านหุ้น
จ่ายในปี 2539 และหุ้นละ 1.25 บาท สำหรับ 18 ล้านหุ้น
จ่ายในปี 2538) (14,400,000) (22,500,000)
กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรสิ้นปี 272,974,073 211,904,796
กำไรต่อหุ้น 3.18 4.16
โปรดดูรายงานการสอบบัญชีของนายประสิทธิ์ มุสิกพันธุ์
ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงินบริษัท ภัทรลิ
สซิ่ง จำกัด (มหาชน)
งบกระแสเงินสด
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2539
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน
กำไรสุทธิ 79,441,345 บาท
ปรับปรุงกระทบกำไรสุทธิเป็น
เงินสดรับ (จ่าย) จากกิจกรรมดำเนินงาน
ค่าเสื่อมราคา 373,328,702
ค่าเผื่อหนี้สูญ 11,104,458
ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 14,506,590
ขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์ถาวร
และทรัพย์สินรอการขาย (1,411,607)
ลูกหนี้ค่าเช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงานเพิ่มขึ้น (21,820,037)
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าการเงินลดลง 447,298,761
ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น (99,170,924)
ทรัพย์สินรอการขายเพิ่มขึ้น (3,287,499)
ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีเพิ่มขึ้น (45,998,077)
สินทรัพย์อื่นลดลง 6,450,346
เจ้าหนี้การค้าลดลง (2,778,161)
รายได้ค่าเช่ารับล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 1,219,480
ภาษีเงินได้ค้างจ่ายลดลง (3,164,684)
ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น 20,510,102
เงินรับล่วงหน้าเพื่อสิทธิการซื้อเผื่อเลือกลดลง (17,845,454)
เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน 758,383,341
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน
ซื้อสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น (1,217,187,012)
เงินรับจากการจำหน่ายสินทรัพย์ถาวร
และทรัพย์สินรอการขาย 193,711,413
เงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุน (1,023,475,599)
- 2 -
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน
เงินกู้ยืมจากธนาคารเพิ่มขึ้น 24,553,286 บาท
ตั๋วเงินจ่ายลดลง (295,000,000)
เงินกู้ยืมและเจ้าหนี้จากบริษัทที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้น 234,267,478
เงินกู้ยืมระยะยาวจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้น 90,000,000
ทุนเรือนหุ้นเพิ่มขึ้น 60,000,000
ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 156,000,000
เงินปันผลจ่าย (14,400,000)
เงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงิน 255,420,764
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดลดลง (9,671,494)
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันต้นปี 20,791,784
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ณ วันสิ้นปี 11,120,290
ข้อมูลกระแสเงินสดเปิดเผยเพิ่มเติม
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด:
เงินสดและเงินฝากธนาคาร 25,542,988
เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร (14,422,698)
11,120,290
เงินสดจ่ายในระหว่างปีสำหรับ:
ภาษีเงินได้ 91,614,842
ดอกเบี้ยจ่าย 222,986,686 บาท
โปรดดูรายงานการสอบบัญชีของนายประสิทธิ์ มุสิกพันธุ์
ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2539 และหมายเหตุประกอบงบการเงิน
บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
หมายเหตุประกอบงบการเงิน
วันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538
1. การเปลี่ยนแปลงทางบัญชีและมูลฐานสำหรับงบการเงิน
1.1 การรับรู้รายได้จากสัญญาเช่าระยะยาว
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2538 บริษัทได้เปลี่ยนแปลงวิธีการ
บัญชีเกี่ยวกับการรับรู้รายได้จากสัญญาเช่าระยะยาว จากเดิมซึ่ง
บันทึกรับรู้รายได้เกี่ยวกับการให้เช่าทั้งหมดตามวิธีสัญญาเช่า
ดำเนินงานมาเป็นการรับรู้รายได้จากสัญญาเช่าระยะยาวตามประเภทของ
สัญญาเช่าระยะยาวว่าเป็นสัญญาเช่าดำเนินงานหรือสัญญาเช่าการเงิน ตาม
ที่กำหนดไว้ในมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 29 เรื่อง การบัญชีสำหรับสัญญาเช่าระยะยาว และ
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจลิสซิ่ง
ที่ประสงค์จะยื่นขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน บริษัทได้ปรับปรุงผลของ
การเปลี่ยนแปลงนี้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่เริ่มทำสัญญาเช่าระยะยาวแต่
ละสัญญา การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลทำให้กำไรสุทธิสำหรับปีสิ้นสุดวัน
ที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538 เพิ่มขึ้นประมาณ 34.5 ล้าน
บาท (1.38 บาทต่อหุ้น) และ 46.3 ล้านบาท (2.57 บาทต่อหุ้น) ตาม
ลำดับ นอกจากนี้ยังทำให้กำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรยกมา ณ วัน
ที่ 1 ตุลาคม 2538 และ 2537 เพิ่มขึ้นประมาณ 113.6 ล้านบาท (สุทธิ
จากภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 48.7 ล้านบาท) และ 67.3 ล้าน
บาท (สุทธิจากภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 28.8 ล้านบาท) ตาม
ลำดับ เนื่องจากผลสะสมของการเปลี่ยนแปลงทางบัญชีต่องบกำไรขาดทุนปีก่อน ๆ
สำหรับงบการเงินในระหว่างงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวัน
ที่ 30 มิถุนายน 2539 บริษัทยังไม่ได้บันทึกปรับปรุงผลของการเปลี่ยน
แปลงการรับรู้รายได้จากสัญญาเช่าระยะยาวนี้ไว้ในบัญชี บริษัทเพียง
แต่ปรับปรุงผลกระทบนี้ไว้ในงบการเงินเท่านั้น ในไตรมาสที่สี่ของ
ปี สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2539 บริษัทได้บันทึกปรับปรุงผลกระทบจากการ
เปลี่ยนแปลง ดังกล่าวไว้ในบัญชีแล้ว
การเปลี่ยนแปลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการรายงานทางการเงินเท่านั้น สำหรับรายงาน
ทางภาษี บริษัทยังคงใช้วิธีรับรู้รายได้ตามแบบ สัญญาเช่าดำเนินงาน
- 2 -
1.2 การเปลี่ยนแปลงการบันทึกรายได้ค่าเช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงาน
เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2537 บริษัทได้เปลี่ยนวิธีบันทึกราย
ได้ค่าเช่าตาม สัญญาเช่าดำเนินงานสำหรับผู้เช่ารายที่ค้างชำระค่าเช่าเกินกว่า
หกเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยรับรู้เป็นรายได้ค่าเช่าตามเกณฑ์สิทธิ
สำหรับระยะเวลาเพียงหกเดือนมาเป็นบันทึกรายได้ค่าเช่าทั้งหมดตาม
เกณฑ์สิทธิตลอดระยะเวลาที่ให้เช่า เนื่องจากฝ่ายบริหารเชื่อ
ว่า บริษัทไม่มีความไม่แน่นอนที่เป็นสาระสำคัญเกี่ยวกับการเรียกเก็บ
ค่าเช่าในที่สุด การเปลี่ยนวิธีการบันทึกรายได้ค่าเช่านี้ไม่มีผล
กระทบที่เป็นสาระสำคัญต่อกำไรสะสม ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2537 ดังนั้น
บริษัทจึงไม่ได้แสดงผลสะสมของการเปลี่ยนแปลงทางบัญชีนี้ไว้ในงบกำไร
ขาดทุนและกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2538
บริษัทไม่ได้จัดทำงบกระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวัน
ที่ 30 กันยายน 2538 เนื่องจากไม่มีรายละเอียดของข้อมูลทางการเงิน
ที่ปรับปรุงย้อนหลังบางรายการเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการบัญชี การรับ
รู้รายได้จากสัญญาเช่าระยะยาว สำหรับปีสิ้นสุดวัน
ที่ 30 กันยายน 2537 เพื่อใช้เปรียบเทียบ
2. นโยบายการบัญชีที่สำคัญ
การรับรู้รายได้
บริษัทบันทึกรายได้จากสัญญาเช่าระยะยาวตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 29 เรื่อง ก
ารบัญชีสำหรับสัญญาเช่าระยะยาว โดยบริษัทถือปฏิบัติย้อนหลังตั้งแต่วันที่
เริ่มทำสัญญาเช่าระยะยาวแต่ละสัญญา
ค่าเช่า ซึ่งบันทึกตามวิธีสัญญาเช่าดำเนินงาน จะบันทึกเป็นรายได้
ตามระยะเวลาที่ให้เช่า
รายได้จากสัญญาเช่าการเงิน จะบันทึกเป็นรายได้ตามจำนวนงวดการผ่อน
ชำระโดยวิธีผลรวมจำนวนงวด โดยรับรู้ในวันที่ถึงกำหนดชำระค่างวดไม่
ว่าจะเก็บเงินได้หรือไม่
- 3 -
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
บริษัทตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเท่ากับจำนวนหนี้ที่คาดว่าจะ
เรียกเก็บเงินไม่ได้ ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารพิจารณาตามฐานะปัจจุบันของลูกหนี้ที่มีอยู่
เงินลงทุน
เงินลงทุนในหุ้นทุนของบริษัทร่วมและบริษัทอื่น ซึ่งถือไว้เพื่อการ
ลงทุนระยะยาวได้บันทึกไว้ในราคาทุน บริษัทไม่ได้ปรับปรุงบัญชีเงินลง
ทุนในบริษัทร่วมให้เป็นไปตามวิธีส่วนได้เสีย เนื่องจากไม่มีผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญ
ค่าเสื่อมราคา
บริษัทตัดค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวร ยกเว้นสินทรัพย์ให้เช่าตามสัญญา
เช่าดำเนินงานและสินทรัพย์รอให้เช่าโดยวิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งาน
โดยประมาณของสินทรัพย์เป็นเวลาห้า (5) ปีถึงสี่สิบ (40) ปี
บริษัทจะตัดค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์รอให้เช่าเมื่อเริ่มมีการเช่า
บริษัทตัดค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ที่ให้เช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงานดังต่อไปนี้
สินทรัพย์ที่ซื้อมาระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2532
ถึงวันที่ 30 กันยายน 2534
(ก) ตัดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีเส้นตรงจากมูลค่าต้นทุนหักด้วยมูลค่า
ซากที่ประมาณขึ้นตามอายุของสัญญาเช่า ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบค่า
เสื่อมราคาสำหรับปีกับมูลค่าต้นทุนแล้วจะไม่มีผลประหนึ่งว่าบริษัท
ได้ตัดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์จากมูลค่าต้นทุนในเวลาที่สั้นกว่า 5 ปี
(ข) สำหรับรายการที่เมื่อค่าเสื่อมราคาสำหรับปีคำนวณตามวิธีการใน
ข้อ (ก) ข้างต้นมีผลประหนึ่งว่าบริษัทได้ตัดค่าเสื่อมราคาของ
สินทรัพย์จากมูลค่าต้นทุนในเวลาที่สั้นกว่า 5 ปี บริษัทจะตัดค่า
เสื่อมราคารายการเหล่านี้จากมูลค่าต้นทุนโดยวิธีเส้นตรงเป็นเวลา 5 ปี
- 4 -
สินทรัพย์ที่ซื้อมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2534
ตัดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีเส้นตรงจากยอดมูลค่าต้นทุนหักด้วยมูลค่า
ซากที่ประมาณขึ้น ตามอายุของสัญญาเช่า
รายการบัญชีที่เป็นเงินตราต่างประเทศ
รายการบัญชีที่เป็นเงินตราต่างประเทศได้บันทึกเป็นเงินบาทใน
ระหว่างปีตามอัตรา แลกเปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการนั้น ๆ ส่วน
ยอดหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศคงเหลืออยู่ ณ วันที่ใน
งบดุลแปลงค่าเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้น ยกเว้นรายการ
ที่ได้ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศไว้ล่วงหน้าซึ่งได้บันทึกตาม
อัตราซื้อขายล่วงหน้า ขาดทุนจากการ แปลงค่าตามอัตราซื้อขายล่วงหน้า
นี้ได้บันทึกรอตัดบัญชีไว้ และตัดบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายโดย
วิธี เส้นตรงตามอายุของสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า
นั้น ส่วนกำไรหรือขาดทุนที่เกิดจากการแปลงค่าเงินตราต่างประเทศที่
ไม่มีสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าได้บันทึกรวมไว้ในผลการ
ดำเนินงานของปีปัจจุบัน
ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี
บริษัทได้ใช้วิธีการคำนวณภาษีเงินได้จากกำไรทางบัญชีโดยมิได้คำนึง
ว่ารายการบัญชี ต่าง ๆ จะถือเป็นรายได้หรือถือหักเป็นค่าใช้จ่าย
ทางภาษีอากรได้เมื่อใด ในการนี้ ภาษีเงินได้ที่เกิดจากรายได้ที่ยัง
ไม่ถือเป็นรายได้ทางภาษีอากรและค่าใช้จ่ายซึ่งยังถือหักทางภาษีอากร
ไม่ได้จะ ถูกบันทึกรอการตัดบัญชีไว้ในงบดุล ภาษีเงินได้รอการตัด
บัญชีนี้จะตัดบัญชีในงวดที่รายได้ดังกล่าวถือเป็นรายได้ทางภาษีอากร
แล้วหรือค่าใช้จ่ายที่ต้องห้ามดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นจริงและสามารถถือหักทางภาษีอากรได้
กำไรต่อหุ้น
กำไรต่อหุ้นคำนวณโดยการหารกำไรสุทธิด้วยจำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยถ่วง
น้ำหนักของหุ้นที่ได้รับชำระในระหว่างปีของแต่ละปี
- 5 -
3. รายการบัญชีกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทมีรายการบัญชีบางส่วนที่เกิดกับบริษัทที่เกี่ยวข้อง
กัน บริษัทเหล่านี้เกี่ยวข้องกัน โดยมีผู้ถือหุ้น และ/หรือ ฝ่าย
บริหารกลุ่มเดียวกัน ผลของรายการดังกล่าวได้แสดงไว้ในงบการเงินตาม
เกณฑ์ที่ตกลงร่วมกันระหว่างบริษัทและบริษัทที่เกี่ยวข้องกันเหล่านี้
ยอดบัญชีคงเหลือ ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 และสำหรับปีสิ้นสุดวัน
เดียวกันที่มีนัยสำคัญที่เกิดจากรายการบัญชีกับบริษัทต่าง ๆ ที่
เกี่ยวข้องกัน ซึ่งเป็นไปตามปกติธุรกิจมีดังนี้
เงินฝากธนาคาร 25,424,909 บาท
ลูกหนี้ค่าเช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงาน 1,161,410
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าการเงิน - สุทธิ (หมายเหตุ 4) 37,982,465
ค่าใช้จ่ายล่วงหน้าและสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 61,655,234
เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร (หมายเหตุ 6) 98,972,496
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 8) 410,000,000
เงินกู้ยืมระยะยาวจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน (หมายเหตุ 9) 90,000,000
ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายและหนี้สินหมุนเวียนอื่น 779,463
เงินรับล่วงหน้าเพื่อสิทธิการซื้อเผื่อเลือก (หมายเหตุ 13) 6,312,159
ค่าเช่ารับจากสัญญาเช่าดำเนินงาน 89,172,147
รายได้จากสัญญาเช่าการเงิน 44,762,964
ค่าใช้จ่ายทั่วไปและบริหาร 6,167,552
ดอกเบี้ยจ่าย 34,212,168 บาท
4. ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าการเงิน - สุทธิ
บาท
2539 2538
ลูกหนี้ตามสัญญาเช่า (รวมลูกหนี้ที่ครบกำหนด
ชำระภายใน 1 ปี นับจาก วันที่ 30 กันยายน
2539 จำนวน 444,915,933 บาท) 1,301,775,404 1,912,734,545
หัก ดอกเบี้ยที่ยังไม่ถือเป็นรายได้ (รวมส่วนที่
ครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี นับจากวันที่
30 กันยายน 2539 จำนวน
52,990,178 บาท) (139,128,960) (302,789,340)
สุทธิ 1,162,646,444 1,609,945,205
- 6 -
5. สินทรัพย์ถาวร - ราคาทุน
บาท
2539 2538
สินทรัพย์ให้เช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงาน
(ส่วนใหญ่เป็นยานพาหนะ) (หมายเหตุ 13) 2,131,339,076 1,258,153,690
อาคารชุดสำนักงาน (รวมที่ดิน) 113,211,596 78,282,503
เครื่องตกแต่ง ติดตั้งและเครื่องใช้สำนักงาน 14,459,920 13,646,233
ยานพาหนะ 15,952,869 3,765,864
สินทรัพย์รอให้เช่าและสินทรัพย์ระหว่างทาง
สำหรับให้เช่า 22,516,129 26,311,331
รวม 2,297,479,590 1,380,159,621
หัก ค่าเสื่อมราคาสะสม (536,334,136) (277,448,769)
สินทรัพย์ถาวร - สุทธิ 1,761,145,454 1,102,710,852
ค่าเสื่อมราคาสำหรับปีมีจำนวนประมาณ 374 ล้านบาท ใน
ปี 2539 และ 196 ล้านบาทในปี 2538
6. เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากธนาคาร
บาท
2539 2538
เงินเบิกเกินบัญชีธนาคาร 14,422,698 2,124,254
ตั๋วเงินจ่าย 316,786,000 295,456,000
ตั๋วแลกเงินขายลด 125,000,000 120,000,000
หนี้สินตามสัญญาทรัสต์รีซีทส์ - 1,776,714
รวม 456,208,698 419,356,968
ตามเงื่อนไขของสัญญาเกี่ยวกับหนี้สินภายใต้สัญญาทรัสต์รีซีทส์
บริษัทได้รับเครื่องจักรโดยใช้เครดิตของธนาคาร บริษัทต้องมีหนี้สิน
ผูกพันต่อธนาคารสำหรับเครื่องจักรที่ได้นำออกแล้วไม่ว่าจะเก็บไว้หรือขายไป
- 7 -
บริษัทมีสัญญากับธนาคารในประเทศแห่งหนึ่ง โดยธนาคารในประเทศแห่ง
นั้นได้จัดหา วงเงินขายลดตั๋วแลกเงินให้แก่บริษัทเป็นจำนวน
รวม 600 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ตั๋วแลกเงินขายลดดังก
ล่าวสามารถต่ออายุได้และจะสิ้นสุดภายในเดือนพฤษภาคม 2540 นอกจาก
นี้ บริษัทต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการที่กำหนดไว้ใน
สัญญา บริษัทได้ออกตั๋วแลกเงินขายลดภายใต้สัญญาดังกล่าว ณ วัน
ที่ 30 กันยายน 2539 รวมจำนวน 125 ล้านบาท ซึ่งออกให้แก่
ธนาคาร 2 แห่ง และ ณ วันที่ 30 กันยายน 2538 รวมจำนวน 200 ล้าน
บาท ซึ่งออกให้แก่ธนาคาร 4 แห่ง และบริษัทการเงินใน
ประเทศ 2 แห่ง รวมจำนวน 120 ล้านบาท และ 80 ล้านบาท ตามลำดับ (ดู
หมายเหตุ 7)
7. ตั๋วเงินจ่าย
บาท
2539 2538
ตั๋วสัญญาใช้เงิน 95,000,000 310,000,000
ตั๋วแลกเงินขายลด (หมายเหตุ 6) - 80,000,000
รวม 95,000,000 390,000,000
8. เงินกู้ยืมและเจ้าหนี้จากบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บาท
2539 2538
เงินกู้ยืมระยะสั้น 410,000,000 170,000,000
ค่าเบี้ยประกันค้างจ่าย 3,493,982 9,214,161
ดอกเบี้ยค้างจ่ายเงินกู้ยืมระยะสั้น 1,058,204 1,991,096
ดอกเบี้ยค้างจ่ายเงินกู้ยืมระยะยาว 920,548 -
รวม 415,472,734 181,205,257
เงินกู้ยืมระยะสั้นดังกล่าวข้างต้นอาวัลโดยธนาคารในประเทศ
9. เงินกู้ยืมระยะยาวจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน
บริษัทนี้ได้แก่ เงินกู้ยืมจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกันแห่ง
หนึ่ง ซึ่งได้ให้วงเงินกู้แก่บริษัทเป็นจำนวนรวม 100 ล้านบาท เงิน
กู้ยืมนี้จะครบกำหนดชำระระหว่างเดือนธันวาคม 2541 ถึง
สิงหาคม 2542 โดยมีอัตราดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้ในสัญญา เงินกู้ยืม
เหล่านี้อาวัลโดยธนาคารในประเทศหลายแห่ง
- 8 -
10. เงินกู้ยืมระยะยาว
ในเดือนสิงหาคม 2538 บริษัทได้ทำสัญญาเงินกู้ยืมร่วมกับธนาคารต่าง
ประเทศหลายแห่งเป็นจำนวนเงินรวม 50 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดยมี
อัตราดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้ในสัญญา และผู้ให้กู้มีสิทธิที่จะเรียก
คืนเงินต้นหลังจากได้กู้ยืมมาแล้วเป็นระยะเวลา 1 ปี อย่างไรก็
ตาม ฝ่ายบริหารคาดว่าจะยังไม่ชำระคืนเงินกู้ภายในหนึ่งปีหลังจาก
วันที่ 30 กันยายน 2539 ดังนั้นบริษัทจึงได้แสดงเงินกู้ยืมนี้เป็น
หนี้สินระยะยาวทั้งจำนวน เงินกู้ยืมส่วนหนึ่งจำนวน 9 ล้าน
เหรียญ สหรัฐอเมริกาค้ำประกันโดยธนาคารต่างประเทศหลายแห่ง
11. ทุนเรือนหุ้น
ในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2536 และวัน
ที่ 15 ธันวาคม 2536 ผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของ
บริษัทจาก 180 ล้านบาท (แบ่งเป็น 18 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้น
ละ 10 บาท) เป็น 300 ล้านบาท (แบ่งเป็น 30 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้น
ละ 10 บาท) บริษัทได้จดทะเบียนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกับกระทรวง
พาณิชย์เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2537
ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2538 ผู้ถือ
หุ้นมีมติอนุมัติให้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม
จำนวน 6,000,000 หุ้นในอัตรา 3 หุ้นเก่าต่อ 1 หุ้นใหม่ในราคา หุ้น
ละ 10 บาท บริษัทได้รับชำระค่าหุ้นดังกล่าวแล้ว และได้จดทะเบียนการ
เปลี่ยนแปลงนี้กับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2538
ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2539 คณะกรรมการได้อนุมัติให้
นำหุ้นเพิ่มทุน ที่เหลืออีก 6 ล้านหุ้น ขายแก่ประชาชนทั่วไปใน
ราคาหุ้นละ 36 บาท และให้ทำการกระจายหุ้น ดังกล่าวในปลายเดือน
มิถุนายน 2539 บริษัทได้จดทะเบียนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อ
วันที่ 1 สิงหาคม 2539
12. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน
บริษัทได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประเภทจ่ายสมทบสำหรับพนักงาน
ประจำของบริษัทตามข้อกำหนดของกฎกระทรวงฉบับที่ 162 (พ.ศ. 2526) ออก
ตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การเข้าเป็น
สมาชิกกองทุนเป็นไปตามความสมัครใจของพนักงาน บริษัทจ่ายสมทบเข้า
กองทุนเป็นรายเดือนในอัตราร้อยละของเงินเดือนของพนักงาน
- 9 -
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2533 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานนี้ได้
จดทะเบียนเป็น นิติบุคคลกับกระทรวงการคลังตามพระราชบัญญัติกอง
ทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 กระทรวงการคลังยังได้อนุมัติให้โอนเงินสะสมในกองทุนส
ำรองเลี้ยงชีพพนักงานที่ตั้งขึ้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 162 (พ.ศ
. 2526) ไปเป็นกองทุนที่จดทะเบียนดังกล่าวข้างต้นด้วย เงินกองทุน
ที่ จดทะเบียนนี้บริหารโดยผู้จัดการกองทุนตามข้อกำหนดของกฎ
กระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบัญญัติกองทุน
สำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530
บริษัทจ่ายสมทบเข้ากองทุนในระหว่างปีเป็น
เงิน 879,655 บาท และ 701,222 บาท สำหรับปีสิ้นสุดวัน
ที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538 ตามลำดับ
13. สินทรัพย์ให้เช่า
ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538 บริษัทมีค่าเช่าขั้นต่ำรายปี
จากสินทรัพย์ให้เช่าตามสัญญาเช่าดำเนินงานที่จะได้รับสำหรับ 5 ปีถัดไป ดังต่อไปนี้
พันบาท
2539 2538
ปี 2539 - 459,825
ปี 2540 722,366 407,625
ปี 2541 589,325 291,184
ปี 2542 336,555 98,967
ปี 2543 114,725 7,290
ปี 2544 7,837 -
รวม 1,770,808 1,264,891
ภายใต้เงื่อนไขของสัญญาเช่าดำเนินงานบางราย ผู้เช่ามีสิทธิเผื่อเลือกที่จะซื้อสินทรัพย์
ที่เช่า ณ วันสิ้นสุดสัญญาเช่า ในการนี้ผู้เช่าต้องจ่ายเงินจำนวน
หนึ่งเพื่อการค้ำประกันการใช้สิทธิเผื่อเลือกซื้อดังกล่าว
ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 และ 2538 มูลค่าคงเหลือที่ไม่ได้รับการ
ประกันของทรัพย์สินที่ให้เช่าตามสัญญาเช่าการเงินมีจำนวนรวม
ประมาณ 50.8 ล้านบาท และ 377.1 ล้านบาท ตามลำดับ
- 10 -
14. ทุนสำรอง
บัญชีนี้ได้แก่ เงินสำรองที่บริษัทจัดสรรสะสมตามพระราชบัญญัติกฎหมายมหาชน ซึ่งกำหน
ดให้บริษัทจัดสรรทุนสำรองอย่างน้อยร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิสำหรับปี
หลังจากหักยอด ขาดทุนสะสมต้นปี (ถ้ามี) จนกว่าสำรองจะมียอดเป็น
ร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวนที่จัดสรรเป็นทุนสำรอง
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2538 ได้ถือตามงบการเงินที่
ยัง ไม่ได้ปรับปรุงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการรับรู้รายได้จาก
สัญญาเช่าระยะยาว
15. หนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า
ณ วันที่ 30 กันยายน 2539 บริษัทมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าจากหนังสือ
ค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารในประเทศแห่งหนึ่งเป็นเงินประมาณ 0.8 ล้านบาท